banana with honey1
banana with honey2
banana with honey3
ว่ากันเรื่องประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าและน้ำผึ้งจ้า
กล้วยน้ำว้า ผลไม้ไทย ที่มีมาแต่รู้โบราณ คนไทยรู้จักกล้วยน้ำว้าดีพอ ๆ กับกล้วยไข่หรือกล้วยหอม ยิ่งถ้าเป็นคุณค่าสารอาหารที่ได้รับแล้ว มากประโยชน์ถึงขั้นที่เรียกว่าต้องรีบไปหามากินกันเลยทีเดียว
กล้วยดีอย่างไร
กล้วย ถึงจะเป็นผลไม้ ที่ไม่น่าจะให้พลังงานได้เยอะ แต่เชื่อหรือไม่ว่า กล้วยเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี ในกล้วย 1 ผล สามารถให้พลังงานได้ร่วม 100 แคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด ทั้ง ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโครส รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร ดังนั้น ถ้าหากหิว ก็สามารถทานกล้วยรองท้องได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของกล้วยที่กิน เช่น กล้วยไข่ อาจทานได้มากกว่า 3 ผล ต่อ 1 ครั้ง กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล กล้วยหอม 1-1 ครึ่งผล) และในกล้วยเอง ยังอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แถมแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคความดันอีกด้วย
สุขภาพดีได้ง่าย ๆ กับกล้วยน้ำว้าอย่างน้อย วันละ 1-2 ผล
ในบรรดากล้วยทั้งหมด กล้วยน้ำว้าให้วิตามินเอสูงสุด นอกจากนั้นก็ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน (บี 6) ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แต่ที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น นั่นก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ถึงให้เรากินกล้วยบด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเรานั่นเอง
นอกจากนี้กล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณในทางยาอีกด้วย มาดูว่ามีอะไรบ้าง
1.ช่วยบรรเทาอาหารเจ็บคอ หรืออาการเจ็บหน้าอกจากการไอแห้ง ๆ ทานวันละ 5-6 ผล จะช่วยให้อาการระคายเคืองลดน้อยลงไปมาก
2.ถ้าใครมีกลิ่นปากรุนแรงในตอนเช้า กล้วยน้ำว้าก็มีสรรพคุณทางยาช่วยลดกลิ่นปากได้ดี วิธีการคือ ทานกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากได้
นอกจากนี้ยังเป็นยาระบายช่วยแก้ท้องผูก หรือระบบขับถ่ายไม่ปกติ เนื่องมาจากสารเพคติน จะเป็นตัวเพิ่มใยอาหารให้กับลำไส้ เมื่อลำไส้อีกกากอาหารมาก จะไปดันผนังลำไส้ ทำให้ผนังลำไส้เกิดการบีบตัว จึงทำให้รู้สึกอย่างถ่ายนั่นเอง ทั้งนี้วิธีการแก้อาการท้องผูกอีกวิธีหนึ่ง คือให้ทานกล้วยน้ำว้าสุข 1-2 ผล ก่อนนอน แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ จะช่วยให้ถ่ายท้องได้ดีในวันรุ่งขึ้น
3.กล้วยน้ำว้า แก้ท้องผูกได้ ก็สามารถแก้ท้องเดินหรือท้องเสียได้ ทั้งนี้เพราะในกล้วยน้ำว้ามีสารแทนนินอยู่มาก จึงสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้ ใช้ใช้กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่ามมาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มนานครึ่งชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1/2 - 1 ถ้วยแก้ว ให้ดื่มทุกครั้งที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ใน 4-5 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ดื่มทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้ง
4.กล้วยน้ำว้ายังสามารถรักษาโรคกระเพาะได้ โดยการนำกล้วยนำว้าดิบมาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ แตกแดด 2 วันให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้ทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว หรือน้ำผึ้ง ทานก่อนอาหาร ครึ่งชั่วโมง หรือก่อนนอนทุกวัน ทั้งนี้ในกล้วยดิบ จะกระตุ้นเซลล์ในเยื่อบุกระเพาะเพื่อหลั่งสารพวก “มิวซิน” ออกมาเคลือบกระเพาะ ซึ่งมีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะ
5.เปลือกของกล้วยน้ำว้า ช่วยบรรเทาอาการคันอันเนื่องมาจาก แมลงกัดต่อย และผื่นแดงจากอาการคัน นอกจากนี้เนื้อและเปลือกกล้วย มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดหนองได้
นอกจากนี้ กล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณทานเป็นอายุวัฒนะอีกด้วย ซึ่งได้รับความนิยมมาตั้งแต่โบราณ วิธีการคือนำกล้วยสุกปอกเปลือกออก แล้วนำไปแช่กับน้ำผึ้ง ซัก 1 สัปดาห์ แล้วจึงนำมาทานวันละ 1-2 ผล จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงได้
ประโยชน์ของ "น้ำผึ้ง"
น้ำผึ้งจัดเป็นอาหารที่มนุษย์รู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสรรพคุณทางยาและคุณค่ามาก แม้แต่ในสมัยพุทธกาล
มีการถวายข้าวมธุปายาส ซึ่งมีการผสมด้วยน้ำผึ้ง ทำให้พระวรกายของพระพุทธเจ้ากลับมาสมบูรณ์แข็งแรง
นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว น้ำผึ้งยังมีประโยชน์กับความสวยความงามด้วยค่ะ ก่อนที่เราจะมาติดตาม
นานาประโยชน์ของน้ำผึ้งเราควรจะมาทำความรู้จักกับน้ำผึ้งก่อนค่ะ
น้ำผึ้งเกิดจากการที่ผึ้งนำน้ำจากเกสรดอกไม้ที่เป็นน้ำหวานจากธรรมชาติมาแล้วใช้กรด Enzyme ในห้องผึ้ง
เปลี่ยนแปลงมาเป็นน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำผึ้งที่ได้มานั้นย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป
รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้น ๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่
จึงมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยง ส่วนน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีการเติมน้ำหวานจากน้ำตาล
และเกสรเทียมซึ่งทำให้คุณค่าลดน้อยลงไป
วิธีสังเกตว่าเป็นน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติทำได้โดยการนำน้ำผึ้งใส่ไว้ในขวด ตั้งทิ้งไว้สักพัก
จะพบว่ามีเกสรดอกไม้ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติของน้ำผึ้งป่านั่นเอง
มาดูถึงคุณประโยชน์ของน้ำผึ้งกันบ้าง จะพบว่าในน้ำผึ้งมีสารเอนติออกซิเดนท์ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียว
และยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยชะลอ
ความเสื่อมของเซลล์ แร่ธาตุที่กล่าวมาล้วนมีความจำเป็นต่อร่างกายที่จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงโลหิต
บอกเป็นภาษาโภชนาการมาพอสมควร ลองยกตัวอย่างที่เห็นง่าย ๆ ดีกว่า
ช่วยปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่รักสุขภาพและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปวดข้อ เป็นตะคริวอยู่บ่อย ๆ
หรือโรคอ้วน สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ดื่มเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี และช่วยบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งได้มีการพิสูจน์และใช้กัน
มานานในอเมริกาและยุโรป โดยนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Honey) 3 ช้อนชา และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล
ไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Apple Cider Vinegar) 3 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอน
และระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่น
อาหารเช้าสำหรับสาวทำงานและผู้รักสุขภาพ เพียงนำผลไม้ต่าง ๆ มาหั่น เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม ตามชอบ
ราดด้วยโยเกิร์ต ลูกเกด และน้ำผึ้ง ไปผ่านความร้อน คุณก็จะได้อาหารเช้าที่มีประโยชน์ อร่อย อุดมด้วยวิตามิน
แร่ธาตุอาหาร เอนไซน์ และโปรตีนที่ย่อยง่าย
ผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ ผสมน้ำผึ้งกับน้ำผุ่นหรือนมร้อนจะช่วยให้คุณหลับสบาย แต่ถ้าได้ร่วมกับการนั่งสมาธิซัก 5 นาทีก่อนนอน
เพื่อให้ท่านได้หยุดพักความคิดและปล่อยวางลงบ้าง จะยิ่งทำให้คืนนั้นเป็นคืนที่คุณได้พักผ่อนเต็มที่
สำหรับผิวหน้าสดใส ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้ หลังจากล้างหน้า
ด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งแล้ว นำกล้วยหอม 1/2 ลูก นำมาบดผสมกับน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน แล้วนำมาทาบนหน้า
ทิ้งไว้ซัก 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งไม่ผานความร้อนจะมีเอ็นไซน์ ซึ่งทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น
เพื่อผมเงางาม หลังสระผมเสร็จนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมผม
แล้วทิ้งไว้ซัก 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใด ๆ
จะเห็นได้ว่า "น้ำผึ้ง" มีคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งตั้งแต่สมัยโบราณหมอชาวบ้านหรือแพทย์แผนโบราณ
จะนำน้ำผึ้งเดือน 5 หรือน้ำผึ้งแท้มาเป็นส่วนผสมในการปรุงยา หรือเป็นตัวประสานในยา เช่น นำมาปั่นเป็นลูกกลอน
เป็นน้ำกระสายละลายผงยา และน้ำผึ้งจัดเป็นตัวยาสมุนไพรสำคัญอย่างหนึ่งทีเดียวในการเอามาทำยาอายุวัฒนะในทุก ๆ ครั้ง
นั่นก็เป็นเพราะคุณค่าอันมีประโยชน์อย่างมากมายที่ทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอายุยืนยาวมากกว่าปกติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก never-age.com และ www.horapa.com